
หลังจากที่บีมได้เริ่มต้นทดลองการรักษาสิวตัวเองแนวธรรมชาติตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา สิ่งที่ได้เรียนรู้ คือ สิวแนวหน้าผาก สิวผด ผิวขาดน้ำ หายง่ายที่สุด รองลงมาก็คือ สิวแนวแก้ม และที่เป็นโจทย์ยากและเรื้อรังสำหรับบีมมาโดยตลอดก่อนหน้าที่จะค้นพบทางออกที่แก้ได้ถึงรากจริง ๆ คือ ปัญหาสิวแนวกราม (ที่คางบีมไม่ค่อยเป็นค่ะ) และปัญหารรูขุมขนบิดเบี้ยว เซลล์ผิวเสียโครงสร้างปกติจากการรักษาผิดวิธีที่แม้จะผ่านมานานแล้วก็ตาม 2 รูปภาพสุดท้าย บีมพยายามจะถ่ายให้เห็นชัด ๆ จากกล้อง แต่มันได้ประมาณนี้นะคะ ซึ่งผิวจริงถือว่าเรียบเนียนมากที่สุดเท่าที่เคยสัมผัสมา แตกต่างจากภาพ Before อื่น ๆ ที่บีมรู้สึกว่า มันเป็นโซนที่มีปัญหาค่ะ ตอนนี้รู้สึก “ปลดล็อค” และสบายใจกับโซนนี้แล้ว จึงอยากแบ่งปันค่ะว่าบีมทำอย่างไรบ้าง สิ่งที่เหลืออยู่คือ ปัญหาพังผืดที่เหมือนแผลเป็นเล็ก ๆ ที่เกาะกันอยู่และรอยจากสิวขับพิษช่วงต้น ๆ (ช่วงปลายเดือนที่แล้วกับต้นเดือน พ.ย. 2562) ของการกินสมุนไพรเพื่อทดลองแก้ปัญหาสิวแนวนี้ค่ะ
ในบทความนี้จะพูดถึงเฉพาะ สิวแนวกรามคางหรือสิวฮอร์โมน สิวที่อกและหลัง (เป็นสิวประเภทเดียวกัน สาเหตุเดียวกันค่ะ) เท่าน้ันนะคะ ปัญหาผิวเสียหาย จะเขียนในครั้งต่อไปค่ะ
สภาพปัญหาก่อนหน้านี้
ตั้งแต่เริ่มรักษาสิวแนวธรรมชาติ โซนนี้จะเป็นโซนที่มีสิวขึ้นโดยตลอด ซึ่งจะสงบดี ถ้ากินอาหารที่สะอาดและย่อยง่าย ไม่กินมัน ไม่กินแป้ง ไม่กินเนื้อสัตว์ และจะหายไปถ้ามีการล้างลำไส้ แต่จะขึ้นมาช่วงแรก ๆ ของการล้างพิษเสมอค่ะ คือ มันไม่เคยหายไปเลย มีแต่ “สงบ” เท่านั้น และ sensitive กับอาหารมาก ๆ ตามภาพ 3 ภาพด้านล่างนี้เลยค่ะ ซึ่งถ่ายไว้เมื่อประมาณต้นปี พ.ศ. 2552 ก่อนเริ่มต้นรักษาสิวแนวทางธรรมชาติค่ะ
จะเห็นว่า มีสิวอักเสบขึ้นเยอะมาก ตรง คาง กราม และพอช่วงล้างพิษแล้ว ก็ขึ้นไปหน้าหูกับหลังคอด้วย
สรุปสาเหตุของสิวแนวกรามคาง
เมื่อมองจากจุดนี้ที่ผ่านมาแล้ว 10 ปี มองชีวิตย้อนไปจนถึงก่อนเป็นสิว บีมมั่นใจว่าสิวแนวกรามคาง เกิดจากสาเหตุดังนี้
- กินของทอดเยอะมาก ที่กินเยอะ กินบ่อย ก็จะเป็น ไก่ทอด หมูทอด ไข่เจียว ไข่ดาว ข้าวผัด ซึ่งตอนที่เป็นเด็กถึงวัยรุ่น จะกินพวกนี้เยอะมาก เพราะเป็นเมนูหลัก ๆ ที่เรากินที่บ้าน วันนั้นข้อมูลสุขภาพไม่ได้มีเยอะเหมือนทุกวันนี้ อินเตอร์เน็ตไม่มี ออนไลน์ไม่มี ดังนั้น เราก็กินไปตามที่ครอบครัวทานกันมาอยู่แล้ว และด้วยความที่บีมตัวเล็ก คุณแม่ก็ห่วง อยากให้สูง อยากให้โต ก็เลยให้กินไก่ทอดเยอะมาก แบบโด๊ปน่ะค่ะ อัพไก่ K ทุกสัปดาห์ แถมกินเฟรนช์ฟรายอีกไม่บันยะบันยัง 555 และถ้าที่ไหนมีเลี้ยงพิซซ่า ถ้าเป็นขอบชีส จัดมา เราอยากอ้วน เราก็กินเยอะมาก อันนี้เป็นสาเหตุหลักที่ร่างกายสะสมพวกไขมันเลวไว้เยอะมาก และเริ่มผุดมาเป็นสิวตอนอายุประมาณ 9 ขวบ คือ ป.4 และมีประจำเดือนเร็วมาก (เพราะคงรับฮอร์โมนจากไก่และนมวัวเยอะ) มีกลิ่นตัวตั้งแต่ ป.3 และมีเซลลูไลท์ตั้งแต่ ป.4 นั่นแหละ
- กินนมวัวและโยเกิร์ตแบบปรุงแต่งรสชาติทุกวัน อันนี้ก็เป็นอาหารปกติของเด็ก ๆ สมัยนั้นอยู่แล้ว ต้องกินนมโรงเรียน เป็นนมวัว (ยกเว้นตอนอนุบาล เขาต้มนมถั่วเหลืองให้กิน healthy และอร่อยมากๆ) และซื้อนมเปรี้ยวกับโยเกิร์ตกินตอนหลังมื้อเที่ยงทุกวัน และยังซื้อมาดื่มเป็นลิตร ๆ กินเพื่อโด้ปให้สูงอีก ซึ่งจริง ๆ แล้ว กินแล้วก็ท้องเสียตลอด แต่คิดว่าปกติ อาการแบบนี้คือเราย่อยนมวัวไม่ได้ แต่ก็ดันทุรังกินไป จริง ๆ แล้วทำให้ผิวยิ่งแย่ ประกอบกับไขมันในเลือดที่มาจากของทอดสูงอีก ตอนนั้นก็กินนมวัวรสหวานด้วย และ กินโยเกิร์ตที่ปรุงแต่งรสชาติ น้ำตาลเยอะมากกกก (ล้านตัว) ลองไปดูฉลากปัจจุบันนี้ก็ได้ค่ะ เมื่อก่อนคงจะมากกว่านี้ สรุปว่ารับสารที่ร่างกายไม่เอา คือ นมวัวเข้าไป และ ยังได้น้ำตาลอีกเยอะมาก ๆ ซึ่งภายหลัง น้ำตาลก็จะเปลี่ยนเป็นไขมัน ถ้าไม่มีการใช้ออกไปจนหมดในแต่ละวัน
- กินแป้ง น้ำตาล เยอะมากกกกก ด้วยความอยากอ้วน เพราะตัวเองผอมมาก จำได้ว่า ตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยมจนถึงตอนทำงาน จะกินเบเกอรี่เยอะมาก ๆ ที่ชอบเป็นพิเศษ และกินทุกวันสมัยเรียนคือ บราวนี่ (ทุกวันนี้ก็ยังชอบ แต่เลือกที่ healthy ค่ะ) และจะชอบแป้ง ชอบขนมปังมาก ๆ ซึ่งมันทำให้เกิดการอักเสบ และ ก็จะกลายเป็นไขมันสะสมด้วยเช่นกัน ซึ่งจะทำให้หลอดเลือดอักเสบ สกปรก การหมุนเวียนของเลือดลมติดขัด ทำให้ผิวซึ่งเป็นเซลล์ส่วนนอก มีปัญหา มีอาหาร น้ำ อากาศ มาเลี้ยงไม่พอ และสารพิษก็ตกค้าง ออกไปไหนไม่ได้ ถ้าไม่ได้ออกกำลังกาย หรือเหงื่อไม่ค่อยออกด้วยแล้ว ยิ่งสะสมหนักเลย ทำให้เป็นสิวเรื้อรังไม่หายเสียที
- การใช้ชีวิตที่ผิดนาฬิกาชีวิตแบบสะสม บีมไปเรียนไกลบ้านและเป็นเด็กหอตั้งแต่อยู่ ม.1 ค่ะ (เรียนที่เชียงใหม่) และก็อยู่ไกลบ้านยาวไปเลยถึงตอนอายุ 24 ปี กลับมาช่วงปิดเทอมและช่วงวันหยุดค่ะ ซึ่งการที่มีอิสระในการใช้ชีวิตและอยู่กับกลุ่มเพื่อน ๆ (โชคดีที่มีเพื่อนสมัยเรียนมัธยมเป็นเด็กเรียน เลยไม่พากันไปเสียคน 55) ก็ทำให้เป็นเด็กมัธยมที่นอนดึกมาก บางทีเม้าท์กันตลอดถึงเช้าก็มี และช่วงที่เรียนหนักขึ้น ก็นอนดึกเหมือนกัน นอนดึก กินดึก กินขนมซอง กินบะหมี่สำเร็จรูปเป็นอาหารประจำ ก็เป็นอยู่แบบนั้นจนกระทั่งจบมหาวิทยาลัย ทำให้ร่างกายที่แย่อยู่แล้ว ยิ่งพัง ยิ่งรวน พิษสะสมเข้าไปอีก เพราะไม่มีเวลาได้ฟื้นฟูตัวเองเลย (นอนไม่ตรงเวลาที่ร่างกายจะซ่อมตัวเอง คือ 4 ทุ่ม – ตี 2) ก็เป็นบ่อเชื้อสิวไหลเวียนในร่างกายต่อไป
- ตับถูกทำลาย คือ ได้กินยารักษาสิวทั้งยาแก้อักเสบ ยาปฏิชีวนะ และช่วง ม.ปลาย แพ้หนัก ก็กินยาแก้แพ้ด้วย ไม่งั้นไปเรียนไม่ได้เลย และช่วงมหาวิทยาลัยก็เร่ิมดื่มแอลกอฮอล์ แต่ไม่ได้ดื่มบ่อย ดื่มเฉพาะช่วงไปรับน้อง และเวลาไปเที่ยวกับเพื่อนบ้างบางครั้ง แต่มาเยอะหน่อยตอน ปี 3 ตอนใกล้จบ (บีมจบ 3 ปีครึ่ง) ส่วนตอนทำงาน ช่วงประมาณอายุ 23-24 ปี เป็นช่วงที่ค่อนข้างเครียดกับชีวิต และพอดีเพื่อนที่ทำงานดื่มและไปเที่ยวกลางคืน นี่ก็ไปด้วย ไปเกือบทุกวันศุกร์ จนมีอยู่วันหนึ่งรู้สึกว่า เจ็บตับ … ตาเหลือง … หายใจเป็นแอลกอฮอล์ ก็รู้สึกว่าไม่เอาแล้ว เดี๋ยวตายก่อนจะได้ตอบแทนบุญคุณ 555 เลยค่อย ๆ ลดลง เหลือแค่กินเพื่อเข้าสังคมเท่านั้นค่ะ ทุกวันนี้ คือ ไม่กินเหล้าและเบียร์ แต่ไวน์ยังมี เพราะไวน์มีประโยชน์กับร่างกายอยู่ถ้ากินปริมาณเหมาะสม แต่กินเวลาไปงานเท่านั้น เบา ๆ พอเป็นพิธี เพราะแม้จะมีประโยชน์อยู่ แต่ถ้าเป็นแอลกอฮอล์ก็คือตับก็ต้องทำงานหนักในการกำจัดออกอยู่ดีค่ะ ซึ่งถ้าระบบกำจัดสารพิษอย่างตับทำงานไม่ได้เป็นปกติ ก็จะทำให้ร่างกายสะสมพิษหนัก ไหลเวียนอยู่ทั่ว เกิดการอักเสบมากมายหลายที่ นี่คือปัญหาหลักของสิวทั้งแนวแก้มและกรามคางเช่นกันค่ะ
- ความเจ็บปวดฝังลึกและความเครียดสะสม ซึ่งตอนเล็ก ๆ ในครอบครัวมีปัญหาความขัดแย้งค่อนข้างบ่อย เรียกว่า เป็นประจำ แม้จะไม่มีการทำร้ายร่างกายกัน แต่ก็รุนแรงสำหรับจิตใจเด็กน้อยค่ะ ความเครียดของผู้ปกครองที่เราสัมผัสรับรู้และรับมาได้ ก็ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกมาตลอด (ช่วงในครรภ์แม่ถึงอายุ 7 ขวบ คือ ช่วงที่จิตใต้สำนึกของมนุษย์จะรับทุกอย่างไม่คัดกรอง กลายมาเป็นบุคลิกภาพหลักของเรา ถ้ามันแย่ แล้วไม่แก้ไข ชีวิตจะแย่ไปตลอด ต้องมาแก้เองตอนโตด้วยความรักและการให้อภัยค่ะ) และพอมาเรียนไกลบ้านอีก ทำงานไกลบ้านอีก ก็รู้สึกเหมือนขาดความรักตลอดเวลา และโดยไม่รู้ตัว ความคิด ความรู้สึก และพลังงานลบ ๆ เหล่านั้น ก็พาให้ไปอยู่ในโซนที่ถูกทำร้ายจิตใจตลอดเวลา ซึ่งแม้เราจะรู้สึกว่าเราเป็นคนดี และเราก็อยากมีชีวิตที่ดี แต่เมื่อโปรแกรมที่ฝังมาเป็นเช่นนั้นและยังไม่ถูกกำจัดออกหรือจัดการ มันก็รันชีวิตเราไปแบบนั้นเรื่อย ๆ ยิ่งหนักขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเรายังไม่ยอมตัดสินใจเปลี่ยนแปลง ความเครียดและความเจ็บปวดฝังลึกระลอกที่สอง คือ ช่วงที่ธุรกิจใหญ่ล้มลง อันนี้ก็เล่าไปแล้วในบทความก่อน ๆ นะคะ เรื่องหนี้ ไปตามอ่านกันได้ค่ะ ซึ่งระลอกแรกยังไม่ถูกกำจัดออกไปหมดเลย อันใหม่ก็มาทับอีก ทำให้เป็นสิวแนวกรามนี้ไม่หายเสียที และความเครียด การใช้ความคิด ต่อเนื่อง ไม่หยุดพัก เป็นสาเหตุของไตเสื่อมพลัง ทำให้พลังชีวิตลดลงด้วย ความเครียดและความเจ็บปวดชนิดฝังลึกนี้ ทำให้เกิดการแปรปรวนของระบบร่างกายอย่างมาก ความเครียดคือเพชรฆาตอันดับ 1 ของมนุษย์โลก เป็นต้นเหตุแท้จริงของโรคเรื้อรังมากมาย คือ เบาหวาน ไขมัน ความดัน อัมพาตย์ มีลูกยาก ฯลฯ สามารถอ่านเพิ่มอย่างละเอียดเกี่ยวกับความเครียดและผลต่อสุขภาพและการเป็นสิวของบีมได้ในบทสรุปเรื่อง TRE ค่ะ
- การมีลูก 2 คน ทำให้พลังไตลดลง ถ้าไม่ฟื้นฟูดูแล ก็จะทำให้สุขภาพแย่ลงได้ เพราะไตจะเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ มีคำกล่าวว่า ผู้หญิงที่มีลูก ร่างกายจะเสื่อมลงไปอีกหลายปี แต่บีมก็ถือว่าดูแลได้ดีมาก ส่วนที่อาจจะเสื่อมลงเพราะยังไม่เคยบำรุงจริงจังก่อนหน้านี้ มัวแต่ไปโฟกัสตับกับลำไส้ ก็คงจะเป็นไตนี่ล่ะค่ะ ซึ่งมีผลทำให้เกิดผมหงอกมากมาย ยิ่งช่วงเครียด อดนอน ก็จะยิ่งมีเยอะเลยทีเดียว พอพลังชีวิตลดลง ระบบการทำงานของร่างกายและภูมิคุ้มกันก็อ่อนแอลง ซึ่งสิวแนวนี้เกี่ยวกับระบบการกำจัดของเสีย ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบน้ำเหลือง โดยตรงค่ะ
- ลำไส้สกปรก อันนี้ชัดเจนมากค่ะ เพราะ บีมเป็นเด็กที่ไม่กินผักผลไม้เลย ตอนมัธยมยังดีที่กินผลไม้เพิ่ม แต่ในเมื่อมีพฤติกรรมทำลายตัวเองมากกว่าสัดส่วนในการกินผลไม้ และกินยาปฏิชีวนะ ยาโรคแอคคิวเทนอีก ลำไส้ก็เลยแย่มาก ๆ อุจจาระมีกลิ่นแรง กลิ่นตัวก็แรง หน้าตาก็หมองคล้ำ ถ้าไม่พบหมอรับยา ก็สิวขึ้นตลอดเวลาและเยอะกว่าเดิมทุก ๆ ปี ไม่เคยล้างลำไส้เลย จนกระทั่งมารู้จักการสวนลำไส้แนวชีวจิตตอนชั้นมหาวิทยาลัย (ประมาณปี 2545) แต่ทำไม่เป็น รู้สึกไม่เห็นผล เลยเลิกทำ แต่ก็เริ่มรู้ว่า มันมีพวกอาหารเสริมช่วยล้างลำไส้นะ กินก็รู้สึกดี แต่รู้สึกว่าไม่ได้ช่วยมากเท่าไหร่ (ณ ตอนนั้นเรายังไม่เข้าใจเรื่องสิว คิดว่ากินแล้วต้องหายเลย จริง ๆ ไม่ใช่ค่ะ มันต้องใช้เวลากว่าจะล้างทุกสิ่งที่สะสมมาออกหมดจนไม่เหลือเป็นสาเหตุของสิวได้อีก)
วิธีกำจัดสิวแนวกรามคาง
หลังจากที่บีมมั่นใจกับผิวที่เรียบเนียนขึ้นเยอะมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน บีมขอสรุปวิธีแก้ปัญหาสิวแนวกรามคางให้ดังนี้ค่ะ ซึ่งเป็นการแก้ที่รากเหง้า ที่ต้นเหตุของมันเลย
- ล้างของเสียออกจากลำไส้ให้สะอาด ให้ทำตามที่แนะนำไว้ในบทความนี้ค่ะ แจก 4 สูตรดีท็อกซ์ แก้สิว ผิวใส ลดพุง ทำได้เองที่บ้าน ในงบเบาๆ
- เลี้ยงโพรไบโอติคส์ในลำไส้ให้มีปริมาณเยอะ ๆ (แบคทีเรียชนิดมีประโยชน์ต่อร่างกาย) เข้าไว้ ต้องกินโยเกิร์ตวันละ 1 ถ้วยหลังตื่นนอน (แนะนำโยเกิร์ตจากนมถั่วเหลือง เช่น RIVON หรือ อัลมอนด์ ก่อน อย่าพึ่งกินโยเกิร์ตทำจากนมวัว เพราะในเลือดยังเต็มไปด้วยสารก่อภูมิแพ้ กินแล้วอาจจะแพ้ได้) หรือข้าวหมาก 2 ช้อนโต๊ะหลังตื่นนอน แล้วตามด้วยแก้วมังกร หรือ มะละกอ หรือ กล้วยดิบต้ม หรือ กล้วยสุกปานกลาง อย่างใดอย่างหนึ่งตามไป และระหว่างวันให้กินผักผลไม้มาก ๆ แบบสดก็ได้ แบบต้มก็ได้ แบบนึ่งก็ได้ เพื่อให้มีอาหารไปเลี้ยงเชื้อให้โตเต็มพื้นที่ลำไส้ ถ้ายิ่งมีเยอะ ภูมิคุ้มกันจะยิ่งแข็งแรง เขาจะจัดการลำไส้ให้เราเอง สิวจะหายไปเองถ้ามีพวกเขาเยอะค่ะ
- ให้มีน้ำหล่อเลี้ยงลำไส้และร่างกายเพียงพอตลอดเวลา โดยดื่มน้ำอุ่นหลังตื่นนอน 1 แก้วใหญ่ และดื่มน้ำอุณหภูมิห้องโดยค่อย ๆ จิบดื่มไปตลอดวัน ห้ามดื่มน้ำก่อนอาหาร ระหว่างมื้อ และหลังอาหาร ถ้าจะดื่มก่อนอาหารให้ดื่มก่อนประมาณ 20 นาที เพื่อไม่ให้ทำลายน้ำย่อย และหลังอาหาร 30-45 นาที เพื่อไม่ให้เจือจางน้ำย่อยเช่นเดียวกัน ช่วงออกกำลังกายหรือล้างพิษ ดื่มเพิ่มขึ้นได้ ให้สังเกตความต้องการของร่างกายเป็นหลัก รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 1.5 ลิตร/วัน งดเครื่องดื่มอื่น ๆ ไปก่อนทั้งหมด เน้นแค่น้ำเปล่าไปก่อน เพราะในเลือดเรามีสารอะไรต่อมิอะไรอยู่เยอะแยะจนร่างกายงงไปหมดแล้ว ดังนั้น เอาน้ำเปล่าไปชะล้างก่อน
- กำจัดไขมันเลวออกจากร่างกายทั้งหมด ทั้งในตับ น้ำเหลือง เลือด หลอดเลือด (บีมหายกับสมุนไพร ดร.ทักษิณาร์ ค่ะ)
- กินสมุนไพรแก้น้ำเหลืองเสียจนกว่าสิวจะหาย (บีมหายกับสมุนไพร ดร.ทักษิณาร์ ค่ะ แต่ใครจะลองระดมพลก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าเป็นไม่มากจริง ๆ ระดมพลก็น่าจะทำให้หายได้แล้ว)
- กินสมุนไพรหรืออาหารที่มีสรรพคุณช่วยล้างหลอดเลือดให้สะอาดจนกว่าสิวจะหาย (บีมหายกับสมุนไพร ดร.ทักษิณาร์ ค่ะ)
- ไม่ควรกินของผัดทอด น้ำตาล แป้ง (คาร์โบไฮเดรต) ที่มี GI สูงเข้าไปเพิ่มจนกว่าสิวจะหาย เพราะจะทำให้เลือดหนืด หลอดเลือดอักเสบ ทำให้หายช้า การฟื้นฟูตัวเองช้า
- กินอาหารที่ย่อยง่าย เน้นกินพืชผัก หรือ plant-based เป็นหลัก งดอาหารปิ้งย่าง ไม่ผ่านกระบวนการ รสจืด หรือลดระดับรสชาติลงมาให้ได้มากที่สุด ถ้าจะผัด ก็ใช้น้ำ งดเนื้อสัตว์ไปก่อน ยกเว้นปลาและอาหารทะเล (ถ้าไม่แพ้)
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และควรนอนให้หลับสนิทช่วง 4 ทุ่ม – ตี 2 รวมเวลานอนทั้งหมดประมาณ 6-8 ชั่วโมง
- ฝึกโยคะหัวเราะ ออกกำลังกายแบบโยคะ (ช่วยให้จิตสงบและปรับสมดุล) หรือว่ายน้ำ (น้ำช่วยให้เย็น ร่างกายสงบ) ถ้าจะออกแบบคาดิโอก็ทำได้ แต่ต้องมีการดื่มสมุนไพรฤทธิ์เย็นและหายใจเข้าออกลึก ๆ ช้า ๆ เพื่อ cool down พลังงานลงจนสงบ ไม่ให้มีความร้อนเกินสะสมจนทำให้เป็นสาเหตุของสิวเพิ่มได้ หรือฝึก TRE 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อกำจัดความเครียดและความเจ็บปวดแบบฝังลึก รากของสิวและปัญหาสุขภาพของใครหลายคน (คนอย่างบีม 555) ออกไป คือ ถ้าเป็นความเครียดปกติ การออกกำลังกายจะช่วยได้แล้ว แต่ถ้าเครียดและเจ็บปวดแบบฝังลึกแบบที่บีมเป็น จะต้องใช้ TRE กับ โยคะหัวเราะ ถึงจะช่วยถอนออกได้ถึงรากถึงโคนค่ะ บีมมาฝึก 2 อันนี้เพิ่ม สิวแนวนี้ ซึ่งมีสาเหตุหลักจากความเครียดด้วย ก็หายไปจริง ๆ หายแบบหาย… เข้าใจโยคะหัวเราะและ TRE เพิ่มได้ที่บทความนี้นะคะ โยคะหัวเราะ และ TRE : แก้ปัญหาชีวิตและสุขภาพได้ถึง “ราก” ถึง “โคน” พร้อมเสริมภูมิคุ้มกันได้แบบง่าย ๆ (ส่วนตัวบีมไม่ค่อยได้ออกกำลังกายค่ะ แต่ TRE + โยคะหัวเราะ ก็ให้ผลเหมือนออกกำลังกายอยู่แล้ว โยคะหัวเราะ 10 นาที = วิ่งบนสายพาน 30 นาที และ TRE ก็สะบัดความเครียดให้หลุดออกจากกล้ามเนื้อที่สะสมและสลัดความเครียดโดยตรงเลย แก้ตรงจุดเลยค่ะ) แต่เป็นคนชอบออกกำลังกายนะคะ เพราะมันกระชุ่มกระชวยดีค่ะ เพียงแต่ไม่ค่อยได้มีจังหวะไปออก เลยหาอะไรที่ทำได้ง่าย ๆ แต่ตรงจุด ได้ผลเลยที่บ้านค่ะ
- ช่วงที่มีสิวขับพิษขึ้นจากการที่เราทำความสะอาดร่างกาย บีมใช้ Skin Care ของร้านสิวซีเคร็ต และใช้ของ KAY ร่วมด้วย สลับกันไปมา บีมใช้ชุดนี้ในการดูแลผิวช่วงทานสมุนไพร ดร.ทักษิณาร์ (ชาชงสูตร 3 แคปซูลสูตร 3 และแคปซูลต้นขลู่ เพื่อล้างหลอดเลือดและแก้ปัญหาเรื่องน้ำเหลืองเสีย พิษตกค้างในเลือด โดยเฉพาะ) แก้ปัญหาสิวกรามคาง 1 เดือนที่ผ่านมา https://www.facebook.com/siwsecretshop/photos/a.456241331592439/531232317426673/?type=3&theater แต่ช่วงหลังปรับมาใช้สบู่ไข่ขาวและสบู่ไข่ขาวชาร์โคลของคุณแม่ที่เขียนรีวิวไว้ในโพสต์นี้ค่ะ https://www.facebook.com/siwsecretshop/posts/534914770391761?__tn__=-R และค่อนข้างมั่นใจว่า “ถั่งเช่าสีทอง” ในผลิตภัณฑ์แบรนด์ KAY เป็นอีกส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผิวดีขึ้นและสิวยุบเร็วด้วยค่ะ เพราะ เขามีสรรพคุณเติมออกซิเจนให้ผิวโดยตรง ผิวที่มีออกซิเจนมาก จะแข็งแรง ต้านพิษได้ดี และเชื้อโรคไม่ชอบด้วยค่ะ
สรุปส่งท้าย
สิวแนวกรามคาง มีสาเหตุมาจาก มีพิษและสารก่อภูมิแพ้ตกค้างในเลือดและหลอดเลือดมากจนเกินกว่าที่ร่างกายจะจัดการไหว สาเหตุหลัก ๆ มาจากการกินอาหารประเภท แป้ง น้ำตาล ไขมันผ่านกรรมวิธี ไขมันทรานส์ สะสมในปริมาณมาก ๆ และไม่กินผักผลไม้ (หรือกินน้อยมากกกก) ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่ทำให้ลำไส้เสียสภาพและไม่มีแบคทีเรียชนิดที่ดีอาศัยอยู่เลย รวมไปถึงการมีพฤติกรรมทำลายตับ ทำให้ตับไม่สามารถทำงานในการกรองและกำจัดของเสียและพิษออกได้ตามปกติ และสุดท้ายคือ เกิดจากความเครียดชนิดสะสมเรื้อรังและความเจ็บปวดชนิดฝังลึก ที่ทำให้ระบบฮอร์โมนแปรปรวน และร่างกายหลั่งสารพิษออกมาในกระแสเลือดอยู่ตลอดเวลา เพราะมันทำงานตามระบบประสาทอัตโนมัติที่ตึงเครียดตลอดเวลา ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของสมองส่วนการคิดของมนุษย์ เป็นสมองส่วนสัญชาตญาณเท่านั้น
สิ่งที่คุณต้องทำตอนนี้ คือ ย้อนกลับไปอ่าน “สาเหตุ” ของสิวประเภทนี้อีกครั้งด้านบน แล้วลองทบทวนดูว่า ที่ผ่านมาตลอดชีวิต มีอะไรบ้างที่ตรงหรือใกล้เคียงกับที่บีมสรุปสาเหตุออกมาให้ และลองทบทวนว่า เราได้ทำหรือเป็นแบบนั้นมานานเท่าไหร่แล้ว ก็จะได้คำตอบค่ะว่า เพราะอะไรจึงเป็นสิวชนิดนี้ในตอนนี้ และพอจะทราบด้วยตัวเองว่า น่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ที่จะกำจัดสาเหตุออกไปทั้งหมด เพราะ ร่างกายที่สะอาด จะไม่เป็นสิวค่ะ ถ้าเมื่อไหร่มันหมดจริง ๆ สาเหตุไม่มีแล้ว คุณก็หายเมื่อนั้น ไม่มีกำหนดแน่นอนตายตัวสำหรับแต่ละคน เพราะ เราจะต้องช่วยให้ร่างกายกำจัดพิษตกค้างออกด้วยตัวเขาเองให้ได้ ซึ่งเราไม่รู้ว่าพิษไปอยู่หลืบซอกไหนบ้าง แต่เซลล์ของเรารู้ดี เรามีหน้าที่เพียงเป็นฝ่ายสนับสนุนกองกำลังของร่างกายเท่านั้นค่ะ ให้ในสิ่งที่เขาต้องการตามที่บีมลิสต์ให้ 11 ข้อ แล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยจะต้องพบกับช่วง “สิวขับพิษ” ในช่วง 1-2 เดือนแรก แต่มันจะค่อย ๆ ลดลงถ้าคุณได้ทำ 11 ข้อนี้อย่างต่อเนื่อง อาจจะขึ้นลง ๆ เป็นระลอก ๆ แต่จะสังเกตได้ว่า สุขภาพดีขึ้นเรื่อย ๆ มีพละกำลังกลับมา หลับตื่นเป็นเวลา ตื่นเช้าไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุก ไม่ตื่นมาเข้าห้องน้ำช่วงนอนหลับ ผิวทั้งตัวดีขึ้น ผิวหน้าดีขึ้น (ผิวตัวจะดีก่อน เป็นสัญญาณที่ดี) สิ่งสกปรกที่ระบายมาเป็นสิวจะลดลงไปเรื่อย ๆ ทั้งปริมาณและขนาด จนหายไปในที่สุด ไม่มีเหลือ
สิวบริเวณนี้ ถ้าอยากหายจริง ๆ ต้อง “ตัดสินใจ” เปลี่ยนแปลงตัวเองโดยสิ้นเชิง คือ จะไม่กลับไปมีพฤติกรรมแบบเก่า ๆ อีก ไม่เช่นนั้น ธรรมชาติก็จะลงโทษไปแบบนี้ ไม่หายเสียที เพราะจริงๆ แล้วธรรมชาติเขารักเรา เขาอยากให้เรามีผิวพรรณที่ดี จึงแสดงให้เราเห็นว่า ทำแบบนี้ไม่ดีนะ จะต้องเป็นสิวแบบนี้ ทุกข์ใจแบบนี้
และบีมแนะนำว่า อย่าเอาจิตไปยึดติดกับสิว ให้ยึดติดกับว่า “วันนี้ได้สร้างเหตุ 11 ข้อ” ที่ทำให้ผิวใสหรือยัง? เมื่อไหร่กังวลสิวที่มี ให้ตีแขนตัวเองเรียกสติ แล้วถามตัวเองว่า
“วันนี้ได้สร้างเหตุ 11 ข้อ” ที่ทำให้ผิวใสหรือยัง?
เพียงเท่านี้ล่ะค่ะ แล้วก็แค่ทำไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องเอาจิตไปผูกกับสิว แต่เอาผูกกับพฤติกรรมหรือเหตุแห่งการหาย เดี๋ยวมันก็หายเองค่ะ แต่ละคนใช้เวลาแตกต่างกันค่ะ บอกไม่ได้จริง ๆ 🙂 แต่โดยหลักแล้ว ถ้าจิตไม่ยึดติดกับสิว แล้วมุ่งไปที่การสร้างเหตุอย่างเดียว ก็ไม่เกิน 3-6 เดือนค่ะ ถ้าปรับทุกอย่างให้เป็นไปตามที่ร่างกายเราต้องการจริงๆ และเลือกวิธีการ อาหารหรือสมุนไพรได้ตรงกับระดับความหนักของปัญหาที่เป็นค่ะ
ขอให้ทุกคนที่ได้เรียนรู้และปฏิบัติจริง ๆ ประสบความสำเร็จทุกคนนะคะ แล้วคุณจะได้มากกว่าสิวหายแน่นอน ชีวิตดี ๆ จะทยอยปรากฏขึ้นให้เห็นตามระดับการเปลี่ยนแปลงภายในของเราค่ะ
#มากกว่าสิวหายคือได้ชีวิตคืนมา
ขออนุญาตอัพเดทช่องทางการติดต่อล่าสุดให้นะคะ
เนื่องจากสิวซีเคร็ตมีทั้งส่วนงานให้ความรู้และส่วนของร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อหรือเข้ากลุ่มให้ตรงช่องทางที่ต้องการตามได้ตามนี้เลยค่ะ
1. สั่งสินค้า ติดตามโปรฯ ข่าวสารร้านสิวซีเคร็ต ติดตามพัสดุ ติดต่อไลน์ Line@ : https://line.me/ti/p/@siwsecret เท่านั้นนะคะ (ดูแลโดยแอดมิน)
2. ท่านที่ต้องการสอบถามข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการเลือกผลิตภัณฑ์
👉 เข้ากลุ่มปรึกษา/สอบถาม ร้านสิวซีเคร็ต (รวบรวมข้อมูลผลิตภัณฑ์ล่าสุด วิธีเลือก วิธีใช้ ตอบคำถามโดยบีม)
https://line.me/R/ti/g/THujSt8wjG
3. ท่านที่ต้องการเฉพาะความรู้ (รวบรวมอัพเดทความรู้ล่าสุดและตอบคำถามโดยบีม)
👉 เข้ากลุ่มห้องสมุด
https://line.me/R/ti/g/UTDl6mgZqH
ท่านที่สนใจหรือสั่งสินค้าไปใช้แล้ว ควรเข้ากลุ่มห้องสมุดด้วยค่ะ เพื่อจะได้ข้อมูลการดูแลตัวเองที่ครบถ้วนตามอัพเดทล่าสุด
หากมีข้อสงสัยใด ๆ ทักไลน์ @siwsecret เพื่อสอบถามได้เลยนะคะ